งานปีใหม่ลาวที่หลวงพระบางเป็นเทศกาลงานแห่งความสุขและความรื่นเริง ที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างพากันรอคอยเพื่อจะมาชื่นชมกับบรรยากาศความสวยงามของประเพณี ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ผู้เขียนได้มีโอกาสไปเที่ยวงาน ปีใหม่ลาวหลายครั้ง ซึ่งความรู้สึกก็คงเหมือนงานรวมญาติ พี่น้อง เพื่อนจากต่างแดนได้กลับมาพบเจอกัน มีพิธีบายศรีผูกข้อมือ กินเลี้ยงสังสรรค์และในมื้อาหารนั้นก็จะต้องมี ลาบ ซึ่งพ้องเสียงกับคำว่า ลาภหมายถึงความโชคดีนั่นเอง กิจกรรมงานเฉลิมฉลองปีใหม่ลาว จัดยิ่งใหญ่ประมาณ 7 วันเลยทีเดียว ตั้งแต่วันที่ 11 – 17 เมษายน วันแรกเริ่มงานด้วยการประกวดเพื่อเฟ้นหานางสังขาน(หรือนางสงกรานต์) ที่สวมนุ่งเครื่องแต่งกายในแบบฉบับของสตรีหลวงพระบางแต่โบราณเพื่อเป็นตัวแทนของชาวหลวงพระบางเข้าร่วมขบวนแห่ วันสังขานล่อง ผู้คนจะไปจับจ่ายข้าวของช่วงเช้า เหมือนเทศกาลงานออกร้านประจำปีจากนั้นช่วงบ่ายก็จะไปเล่นน้ำที่ เกาะกลางแม่น้ำโขง ร่วมก่อเจดีย์ทราย วันเนา จะมีการแห่วออัญเชิญศรีษะท้าวกบิลพัสตร์จากวัดทาดไปยังวัดเชียงทอง โดยจะมีนางสังขาน ผู้คน พระเณรอยู่ในขบวน วันสังขานขึ้น ที่ตีนยอดพูสีจะมีผู้คนนำข้าวเหนียววางเป็นก้อนเล็ก ๆ ไว้ที่ขั้นบันไดตามรายทาง พร้อมกับนำดอกไม้ ธูปเทียนขึ้นไปสักการะบนยอดพระธาตุ วันต่อมา เป็นพิธีแห่พระบาง พระคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบาง ออกจากหอพิพิธภัณฑ์มาประดิษฐานที่วัดสุวันพูมาราม เพื่อให้ชาวบ้านชาวเมือง นักท่องเที่ยวได้มาสรงน้ำ โดยวันแรกก็จะมีพิธีกรรมทางศาสนา เมื่อครบ 3 วัน ก็จะมีพิธีแห่พระบางกลับสู่หอพิพิธภัณฑ์ตามเดิม ก็เป็นอันเสร็จพิธีที่ยิ่งใหญ่และน่าศรัทธายิ่งของงานวันปีใหม่ลาว หากมาท่องเที่ยวเมืองหลวงพระบางก็ต้องมาชิมอาหาร ที่นี่มีอาหารอร่อยให้ได้ลิ้มลอง ผู้เขียนได้ออกหนังสือตำราอาหารราชสำนักหลวงพระบาง Food and Travel : ลาว สำนักพิมพ์บ้านพระอาทิตย์ ได้สัมภาษณ์เรื่องราวของอาหารการกินจากเชื้อพระวงศ์ เจ้าหญิงมะนีไล สว่าง-ลูกสะใภ้ของเจ้ามหาชีวิต รวมทั้งลูกหลานของเผียสิงห์ เจริญสิน ผู้ซึ่งเคยเป็นห้องเครื่องให้กับเจ้ามหาชีวิต(พระเจ้าแผ่นดิน)กษัตริย์องค์สุดท้ายของลาว รายละเอียดต่าง ๆ หาอ่านได้จากหนังสือเล่มนี้ อาหารที่หลวงพระบางล้วนดีต่อสุขภาพ เพราะมีปลาหลากหลายชนิดจากแม่น้ำโขงและผักพื้นบ้านที่มีให้เลือกมากมาย เมนูยอดฮิตอาทิ สลัดหลวงพระบาง เอาะหลาม หมกปลาฟอก แจ่วบอง ฯลฯ ล้วนแล้วแต่อร่อยกับเมนูที่ไม่เน้นการปรุงแต่งมากนัก
นอกจากงานประเพณีปีใหม่ลาวแล้ว หากท่านมีโอกาสได้มาสัมผัสกับประเพณีงานกินดอง (แต่งงานแบบหลวงพระบาง) ก็งดงามไม่แพ้กัน เมื่อเร็ว ๆ นี้ผู้เขียนมีโอกาสได้จัดงานแต่งงานให้กับเครือญาติราชวงศ์ที่นั่น วันหลังจะนำภาพมาฝากนะครับ แต่สำหรับคนลาวในเมืองไทย เทศกาลวันปีใหม่ลาวก็สนุกไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน บรรยากาศความสนุกสนานและเป็นกันเองในงาน
ที่สถานฑูตลาวประจำประเทศไทย ก็ม่วนซื่นสร้างความประทับใจตราบนานแสนนาน โดยเฉพาะดนตรีและการขับกล่อม ท่วงทำนองเพลงและการเต้นจังหวะ “บัดสโลบ” และ “สาละวันเตี้ยลง” วันหลังผู้เขียนจะนำภาพบรรยากาศมาฝากกัน
งานปีใหม่ไทยและปีใหม่ลาวที่กำลังจะมาถึงนี้ ก็ขอร่วมส่งความปรารถนาดีมายังทุกท่าน ให้ประสบแต่ความสุข มีสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดีตลอดไปและขอให้บ้านเมืองร่มเย็น
